SlideShare ist ein Scribd-Unternehmen logo
1 von 29
Downloaden Sie, um offline zu lesen
พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com
12 กุมภาพันธ์ 2558
Peter F. Drucker
PUBLICATION DATE: January 01, 2005
Best of HBR 1999.
 Peter F. Drucker เป็นศาสตราจารย์ (กิตติคุณ) Marie Rankin
Clarke ด้าน Social Science and Management ที่ Claremont
Graduate University แคลิฟอร์เนีย
 เขาเป็นชาวอเมริกันที่เป็นชาวออสเตรียโดยกาเนิด เขาเป็ นที่
ปรึกษาด้านการจัดการ การศึกษา และนักประพันธ์ เขามีส่วน
ร่วมในการเขียนปรัชญารากฐาน และแนวทางการปฏิบัติของ
องค์กรธุรกิจที่ทันสมัย
 เขายังเป็นผู้นาในการพัฒนาการศึกษาด้านการจัดการ เขาคิดค้น
แนวคิดเรียกว่า การจัดการโดยวัตถุประสงค์ (management by
objectives) และเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้ก่อตั้งการบริหาร
จัดการยุคใหม่ (the founder of modern management)
 Throughout history, people had little need to manage their careers--they were born into their stations
in life or, in the recent past, relied on their companies to chart their career paths.
 But times have drastically changed. Today we must all learn to manage ourselves. What does that
mean? As Peter Drucker tells us in this seminal article first published in 1999, it means we have to
learn to develop ourselves. It may seem obvious that people achieve results by doing what they are
good at and by working in ways that fit their abilities. But, Drucker says, very few people actually
know--let alone take advantage of--their fundamental strengths.
 He challenges each of us to ask ourselves: What are my strengths? How do I perform? What are my
values? Where do I belong? What should my contribution be? Don't try to change yourself, Drucker
cautions. Instead, concentrate on improving the skills you have and accepting assignments that are
tailored to your individual way of working. If you do that, you can transform yourself from an ordinary
worker into an outstanding performer.
 Today's successful careers are not planned out in advance. They develop when people are prepared for
opportunities because they have asked themselves those questions and rigorously assessed their
unique characteristics.
ประเด็นในเรื่อง การพัฒนาตนเอง
 1. อะไรคือจุดแข็งของฉัน? (What are my strengths?)
 2. ฉันทาได้ดีเพียงใด? (How do I perform?)
 3. ค่านิยมของฉันคืออะไร? (What are my values?)
 4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี? (Where do I belong?)
 5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร? (What should I
contribute?)
 ความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ (Responsibility of
relationships)
 ช่วงครึ่งหลังของชีวิต (The Second Half Of Your Life)
เกริ่นนา
 การประสบความสาเร็จในเศรษฐกิจฐานความรู้ คือผู้ที่รู้จุดแข็ง
ของตัวเอง มีค่านิยม และมีวิธีการที่ดีที่สุดที่พวกเขาใช้
ดาเนินการ (Success in the knowledge economy comes to those
who know themselves-their strengths, their values, and how
they best perform)
 ประวัติของผู้ที่ประสบความสาเร็จในอดีต คือผู้ที่มีการบริหาร
จัดการตนเองอยู่เสมอ
กล่าวโดยทั่วไป
 เราจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับตัวเอง
 เราจะต้องมีการพัฒนาตัวเอง
 เราจะต้องวางตัวเอง ในที่ที่เราสามารถมีผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
 เราจะต้องระลึกไว้เสมอว่า ในช่วง 50 ปีของชีวิตการทางาน เมื่อ
ถึงจุด ๆ หนึ่ง ต้องรู้จักวิธีการและเวลาที่จะเปลี่ยนงานที่ทา
1. อะไรคือจุดแข็งของฉัน?
 รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทาได้ดี มันเป็นการง่ายที่จะรู้ในสิ่งที่เราทาได้
ไม่ดี มากกว่าการรู้ว่าสิ่งที่เราทาได้ดี
 เราไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพการทางานได้บนจุดอ่อน ซึ่งอาจ
ทาให้เราไม่สามารถทาอะไรได้เลย
 บุคคลสามารถดาเนินการได้ โดยอาศัยจุดแข็งเท่านั้น
 ให้ค้นพบจุดแข็งของคุณผ่าน การวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ
(feedback analysis)
การวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ
 เป็นวิธีเดียวที่ใช้ระบุจุดแข็งของคุณ
 เขียนผลที่คาดหวังจากการตัดสินใจที่สาคัญและการกระทาของคุณ
จากนั้น 9-12 เดือนต่อมา ให้เปรียบเทียบกับผลลัพธ์
 แผนดาเนินการ:
 ใส่จุดแข็งของคุณที่ทาให้เกิดผลลัพธ์
 ทางานเพื่อปรับปรุงจุดแข็งของคุณ
 หลีกเลี่ยงความหยิ่งทางปัญญา - หาทักษะที่จาเป็น
 แก้ไขนิสัยที่ไม่ดี; การขาดมารยาท
 รู้ในสิ่งที่จะไม่ทา – ระบุความไร้ความสามารถ และพยายามหลีกเลี่ยง
Managing oneself
กลยุทธ์
1. เน้นจุดแข็งของคุณ (ให้ใช้จุดแข็งที่สามารถผลิตผลลัพธ์)
2. ปรับปรุงจุดแข็งของคุณ (พัฒนาทักษะของคุณหรือหามาใหม่)
3. ค้นพบความเย่อหยิ่งทางปัญญาของคุณที่เป็นสาเหตุของความ
ล้มเหลว แล้วเอาชนะมันให้ได้ (แก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของคุณ)
2. ฉันทาได้ดีเพียงใด?
 ขึ้นกับลักษณะของบุคลิกภาพ – วิธีการดาเนินการที่บุคคลที่ทา
ได้ดีหรือไม่ดี เพราะแต่ละคนมีการทางานและการดาเนินการที่
แตกต่างกัน
 วิธีการที่คนดาเนินการที่ไม่ซ้ากัน: เรื่องของบุคลิกภาพ
 คนจานวนมากทางานในรูปแบบที่ไม่ได้เป็นวิธีการของพวกเขา
 อย่าพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง (มากเกินไป) – ให้ทางาน
หนักเพื่อปรับปรุงวิธีที่คุณใช้ดาเนินการ
เราเป็นผู้อ่านหรือผู้ฟัง?
 ผู้อ่านเช่น ประธานาธิบดีเคนเนดี้ หรือรัฐมนตรีแมคนามารา ที่
ชอบอ่านรายงาน ในการแถลงข่าวหรือการอภิปราย
 ผู้ฟังเช่น ประธานาธิบดีรูสเวลท์ ชอบการฟังและพูดคุย มากกว่า
การอ่านและการเขียน
 ผู้อ่านไม่สามารถกลายเป็นผู้ฟังได้อย่างเต็มที่ – และในทานอง
เดียวกัน
เราเรียนรู้ได้อย่างไร?
 คนเราอาจจะได้เรียนรู้จากการอ่าน การเขียน การทา การพูด
การฟัง หรือการรวมกันของวิธีดังกล่าว
 เราจะต้องใช้วิธีการที่ได้ผล สาหรับเราเอง
3. ค่านิยมของฉันคืออะไร?
 การทดสอบกับกระจก (mirror test) : อย่างมีจริยธรรมถาม
ตัวเองว่า คนแบบไหนที่ฉันต้องการที่จะเห็นในกระจกในตอน
เช้า?
 ค่านิยม (values) เป็นการทดสอบที่ดีที่สุด (ultimate test)
สาหรับการทางานที่เข้ากันได้ขององค์กรกับคุณ
3. ค่านิยมของฉันคืออะไร? (ต่อ)
 ความขัดแย้งค่านิยมที่ควรหลีกเลี่ยงคือ
 ความมุ่งมั่นขององค์กร ระหว่างพนักงานใหม่กับพนักงานเก่า
 การปรับปรุงที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้ น หรือพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
 การเน้นผลในระยะสั้น เทียบกับเป้าหมายระยะยาว
 คุณภาพเทียบกับปริมาณ
 การเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับความอยู่รอด
4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี?
 นักคณิตศาสตร์ นักดนตรี และพ่อครัว มักจะแสดงออกในขณะที่พวก
เขามีอายุสี่หรือห้าปี
 คนที่มีพรสวรรค์สูง ควรจะต้องตระหนักในช่วงต้นของชีวิตว่า พวก
เขาควรเป็นหรือไม่ควรเป็นอะไร
 การประสบความสาเร็จในอาชีพไม่ได้เกิดจากวางแผน
 ผู้ประสบความสาเร็จในอาชีพ เกิดจากมีการพัฒนาเตรียมไว้ก่อนสาหรับ
โอกาสที่จะมาถึง เพราะพวกเขารู้จุดแข็งของพวกเขา วิธีการของพวกเขาใน
การทางาน และค่านิยมของพวกเขา
 การรู้ตัวตนสามารถเปลี่ยนคนธรรมดา - ขยันและมีความสามารถ แต่อย่าง
อื่นปานกลาง – ให้เป็นผู้ที่มีความโดดเด่น
4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี? (ต่อ)
 ฉันควรเป็นหรือฉันไม่ควรเป็น ...
 ฉันควรทางานในองค์กรขนาดใหญ่หรือองค์กรขนาดเล็ก?
 "ใช่ฉันจะทาอย่างนั้น " (ในวิถีที่ฉันเป็น)
 ถ้าฉันไม่ชอบการตัดสินใจ ฉันควรจะได้เรียนรู้ที่จะบอกว่าไม่ เมื่อ
มีการมอบหมายให้เป็นผู้ตัดสินใจ
 เมื่อฉันตอบคาถามสามข้อก่อนหน้านี้ แล้ว ทาให้ฉันสามารถและ
ตัดสินใจในสิ่งที่ฉันเป็น
5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร?
 ผู้ปฏิบัติงานที่มีความรู้ ควรแสวงหาการมีส่วนสนับสนุนที่
เกี่ยวข้องกับ:
 สถานการณ์ต้องการอะไร?
 การมีจุดแข็ง วิธีการ และค่านิยมของฉัน สามารถสนับสนุนใน
สิ่งที่ต้องทาอะไรบ้าง?
 อะไรคือผลลัพธ์ที่ได้ที่สร้างความแตกต่าง จากการประสบ
ความสาเร็จ?
5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร? (ต่อ)
 ไม่ควรมองไกลไปข้างหน้าเกิน 18 เดือน ควรมีการวางแผนที่จะ -
 ให้บรรลุผลลัพธ์ที่มีความหมายและสร้างความแตกต่าง
 ยืดเป้าหมายที่มีความลาบากแต่สามารถทาให้สาเร็จได้
 สามารถมองเห็นผลได้และสามารถวัดผลได้
 กาหนดแนวทางของการกระทาว่า: จะทาอย่างไร ที่ใด วิธีการที่จะ
เริ่มต้น สิ่งที่เป็นเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และกาหนดเวลาเส้นตาย
ความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์
 เจ้านายจะไม่ได้ขึ้นกับตาแหน่งในแผนภูมิหรือหน้าที่ - การปรับปรุง
แล้วทาให้เจ้านายมีประสิทธิผล (effective) มากขึ้น เป็นความลับของ
"การจัดการเจ้านาย"
 ความสัมพันธ์ของการทางานขึ้นอยู่กับคนในการทางาน - เพื่อน
ร่วมงานมีความเป็นมนุษย์และความเป็นบุคคลเช่นเดียวกับที่คุณมี
 ความรับผิดชอบของการสื่อสาร เป็นวิธีการที่คุณดาเนินการ เพื่อลด
ความขัดแย้งด้านบุคลิกภาพ
 องค์กรเกิดจากการสร้างความไว้วางใจระหว่างบุคคล - ไม่จาเป็ นต้อง
หมายความว่าพวกเขาชอบกัน - แต่อยู่ที่พวกเขามีความเข้าใจกัน
และกัน
Managing oneself
ช่วงครึ่งหลังของชีวิตของคุณ
 การจัดการตนเอง นาไปสู่การเริ่มต้นอาชีพที่สอง:
 เริ่มต้นหนึ่งใหม่ (ย้ายไปยังองค์กรอื่น)
 พัฒนาอาชีพคู่ขนาน (ทาไปพร้อมกับงานปัจจุบัน)
 ผู้ประกอบการทางสังคม (กิจกรรมไม่แสวงหาผลกาไร)
 ผู้ที่จัดการช่วงครึ่งหลังชีวิตของพวกเขา อาจจะเป็นชนกลุ่มน้อย
 ส่วนใหญ่มักจะอยู่จน เกษียณอายุ (retire on the job)
สรุป
 ในยุคอุตสาหกรรมความรู้
 การประสบความสาเร็จส่วนใหญ่ คือไม่ล้มเหลว
 แรงงานที่มีความรู้ ยั่งยืนกว่าองค์กร
 แรงงานที่มีความรู้ มักเคลื่อนที่ และไม่อดทน
 จาเป็นที่จะต้องจัดการตนเอง เป็นการปฏิวัติกิจกรรมของมนุษย์
 การจัดการตนเอง ต้องมีสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประวัติการณ์ของบุคคล
– ไปยังจุดที่คนงานที่มีความรู้แต่ละคน คิดและมีพฤติกรรม
เช่นเดียวกับซีอีโอ (thinks and behaves like a CEO)
•What are my strengths?
•How do I perform?
•What are my values?
•Where do I belong?
•What should I contribute?
 " Success in the knowledge economy comes to those who know
themselves- their strengths, their values, and how they best
perform."
 "Successful careers are not planned. They develop when people
are prepared for opportunities because they know their
strengths, their method of work, and their values."
 "Taking responsibility for relationships is therefore an absolute
necessity. It is a duty."
(1) use "feedback analysis" to discover and focus on your strengths.
(2) determine how I best perform, as a reader or as a listener,
determine how I learn, and determine if I work well under stress or want
highly structured, predictable environments.
(3) know what my values are, and align my organization with them.
(4) build relationships, and communicate clearly, effectively, constantly
within them, and
(5) after 20 years, most high-performing people will seek out or start
a 2nd career, and planning for it or developing it while in the 1st one is
most successful.
Managing oneself
Managing oneself

Weitere ähnliche Inhalte

Was ist angesagt?

Volley pan2
Volley pan2Volley pan2
Volley pan2sumalee1
 
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )Sireetorn Buanak
 
002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theorieswiraja
 
Introduction to innovation management
Introduction to innovation managementIntroduction to innovation management
Introduction to innovation managementSurang Judistprasert
 
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์Pphat Thadhol
 
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuire
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuireเนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuire
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuireMahasarakham Business School, Mahasarakham University
 
โรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากโรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากWan Ngamwongwan
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพณัฐะ หิรัญ
 
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่Aj.Mallika Phongphaew
 
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55Decode Ac
 
การบัญชีบริหาร
การบัญชีบริหารการบัญชีบริหาร
การบัญชีบริหารYeah Pitloke
 
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน Darika Surarit
 
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภคบทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภคkasocute
 
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหาร
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหารแนวความคิดและทฤษฎีการบริหาร
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหารguest3d68ee
 
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์Nakhon Phanom University
 

Was ist angesagt? (20)

Volley pan2
Volley pan2Volley pan2
Volley pan2
 
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )
เทคนิคการบริหารทรัพยากรมนุษย์ทางการศึกษา(Eductaional Administraion )
 
Ha overview.1
Ha overview.1Ha overview.1
Ha overview.1
 
002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories002191 Chapter 3 Organizational Theories
002191 Chapter 3 Organizational Theories
 
ตัวอย่างการเขียนประเมินค่างาน
ตัวอย่างการเขียนประเมินค่างานตัวอย่างการเขียนประเมินค่างาน
ตัวอย่างการเขียนประเมินค่างาน
 
Peter drucker
Peter druckerPeter drucker
Peter drucker
 
Introduction to innovation management
Introduction to innovation managementIntroduction to innovation management
Introduction to innovation management
 
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์
พุทธจริยศาสตร์VSลัทธิค้านท์
 
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuire
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuireเนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuire
เนื้อหารายละเอียดของทฤษฎีแรงกระตุ้นทางจิตวิทยาของ McGuire
 
โรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปากโรคมะเร็งในช่องปาก
โรคมะเร็งในช่องปาก
 
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 : เส้นทางสู่อาชีพ
 
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
บทที่ 4 การจัดการองค์การสมัยใหม่
 
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีของนักการศึกษา 55
 
การบัญชีบริหาร
การบัญชีบริหารการบัญชีบริหาร
การบัญชีบริหาร
 
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน
สุขศึกษา ม.2 หญิงชายเท่าเทียมกัน
 
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภคบทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค
บทที่ ๔ การปรับปรุงนิสัยการบริโภค
 
3 dynamic of behavioural management
3 dynamic of behavioural management3 dynamic of behavioural management
3 dynamic of behavioural management
 
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหาร
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหารแนวความคิดและทฤษฎีการบริหาร
แนวความคิดและทฤษฎีการบริหาร
 
การปฏิวัติทางภูมิปัญญา
การปฏิวัติทางภูมิปัญญาการปฏิวัติทางภูมิปัญญา
การปฏิวัติทางภูมิปัญญา
 
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์
การบริหารเชิงสถานการณ์ ดร.ชาญวิทย์ หาญรินทร์
 

Andere mochten auch

Andere mochten auch (20)

The acceleration trap
The acceleration trapThe acceleration trap
The acceleration trap
 
Health care needs real competition
Health care needs real competitionHealth care needs real competition
Health care needs real competition
 
The right to win
The right to winThe right to win
The right to win
 
10 steps to an award application
10 steps to an award application10 steps to an award application
10 steps to an award application
 
Rethinking hr
Rethinking hrRethinking hr
Rethinking hr
 
How to prepare application report
How to prepare application reportHow to prepare application report
How to prepare application report
 
EdPEx for internal assessment
EdPEx for internal assessmentEdPEx for internal assessment
EdPEx for internal assessment
 
People before strategy
People before strategyPeople before strategy
People before strategy
 
Lessons from great family businesses
Lessons from great family businessesLessons from great family businesses
Lessons from great family businesses
 
Make better decisions
Make better decisionsMake better decisions
Make better decisions
 
Strategy definition
Strategy definitionStrategy definition
Strategy definition
 
Introduction to performance excellence
Introduction to performance excellenceIntroduction to performance excellence
Introduction to performance excellence
 
Comment guidelines 2015
Comment guidelines 2015Comment guidelines 2015
Comment guidelines 2015
 
Board of directors
Board of directorsBoard of directors
Board of directors
 
Team building
Team buildingTeam building
Team building
 
Strategic five
Strategic fiveStrategic five
Strategic five
 
From learning to writing
From learning to writingFrom learning to writing
From learning to writing
 
Maruay 17th ha forum
Maruay 17th ha forumMaruay 17th ha forum
Maruay 17th ha forum
 
Strategy or execution
Strategy or executionStrategy or execution
Strategy or execution
 
Do you hate your boss
Do you hate your bossDo you hate your boss
Do you hate your boss
 

Ähnlich wie Managing oneself

Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124guest417609
 
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคตภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคตProud N. Boonrak
 
Change strategic management
Change strategic managementChange strategic management
Change strategic managementcapercom
 
โครงการสัมมนาใช้จริง
โครงการสัมมนาใช้จริงโครงการสัมมนาใช้จริง
โครงการสัมมนาใช้จริงthawiwat dasdsadas
 
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdfmaruay songtanin
 
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้Nona Khet
 
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...Sawittri Phaisal
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมPhakawat Owat
 
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำบทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำAj.Mallika Phongphaew
 
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการCh1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการNittaya Intarat
 
องค์การสมัยใหม่ ครั้งที่ 1
องค์การสมัยใหม่  ครั้งที่ 1องค์การสมัยใหม่  ครั้งที่ 1
องค์การสมัยใหม่ ครั้งที่ 1ma020406
 
ภาวะผู้นำ ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนา
ภาวะผู้นำ  ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนาภาวะผู้นำ  ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนา
ภาวะผู้นำ ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนาCUPress
 

Ähnlich wie Managing oneself (20)

Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124Ppt Charuaypon 124
Ppt Charuaypon 124
 
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคตภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต
ภาวะผู้นำสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคต
 
Change strategic management
Change strategic managementChange strategic management
Change strategic management
 
Leadership competencies
Leadership competenciesLeadership competencies
Leadership competencies
 
โครงการสัมมนาใช้จริง
โครงการสัมมนาใช้จริงโครงการสัมมนาใช้จริง
โครงการสัมมนาใช้จริง
 
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf
10 Tips for Effective Leadership in Thai Language.pdf
 
Super motivation 2
Super motivation 2Super motivation 2
Super motivation 2
 
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
การจัดการความรู้เพื่อมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้
 
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...
กิจกรรมแนะแนวที่บูรณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่...
 
Balancing your life
Balancing your lifeBalancing your life
Balancing your life
 
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วมการบริหารแบบมีส่วนร่วม
การบริหารแบบมีส่วนร่วม
 
4 ปี สุเมธี
4 ปี สุเมธี4 ปี สุเมธี
4 ปี สุเมธี
 
Learning Organization
Learning OrganizationLearning Organization
Learning Organization
 
แรงงาน 4.0
แรงงาน 4.0แรงงาน 4.0
แรงงาน 4.0
 
นำเสนอ
นำเสนอนำเสนอ
นำเสนอ
 
Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2Cjpowerpoint2
Cjpowerpoint2
 
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำบทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
บทที่ 7 อำนาจและภาวะผู้นำ
 
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการCh1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
Ch1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการ
 
องค์การสมัยใหม่ ครั้งที่ 1
องค์การสมัยใหม่  ครั้งที่ 1องค์การสมัยใหม่  ครั้งที่ 1
องค์การสมัยใหม่ ครั้งที่ 1
 
ภาวะผู้นำ ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนา
ภาวะผู้นำ  ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนาภาวะผู้นำ  ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนา
ภาวะผู้นำ ทฤษฎี การวิจัย และแนวทางสู่การพัฒนา
 

Mehr von maruay songtanin

Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...
Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...
Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...maruay songtanin
 
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...maruay songtanin
 
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...maruay songtanin
 
Building Organizational Resilience in Thai Language
Building Organizational Resilience in Thai LanguageBuilding Organizational Resilience in Thai Language
Building Organizational Resilience in Thai Languagemaruay songtanin
 
Award Criteria for 2024.pdf
Award Criteria for 2024.pdfAward Criteria for 2024.pdf
Award Criteria for 2024.pdfmaruay songtanin
 
Discipline Equals Freedom.pdf
Discipline Equals Freedom.pdfDiscipline Equals Freedom.pdf
Discipline Equals Freedom.pdfmaruay songtanin
 
The Value of Digital Transformation.pdf
The Value of Digital Transformation.pdfThe Value of Digital Transformation.pdf
The Value of Digital Transformation.pdfmaruay songtanin
 
OKRs Measure What Matters.pdf
OKRs Measure What Matters.pdfOKRs Measure What Matters.pdf
OKRs Measure What Matters.pdfmaruay songtanin
 
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdfmaruay songtanin
 
37 วิสัยหชาดก มจร.pdf
37 วิสัยหชาดก มจร.pdf37 วิสัยหชาดก มจร.pdf
37 วิสัยหชาดก มจร.pdfmaruay songtanin
 
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
35 เอกราชจริยา มจร.pdf
35 เอกราชจริยา มจร.pdf35 เอกราชจริยา มจร.pdf
35 เอกราชจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
33 สุตโสมจริยา มจร.pdf
33 สุตโสมจริยา มจร.pdf33 สุตโสมจริยา มจร.pdf
33 สุตโสมจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdfmaruay songtanin
 

Mehr von maruay songtanin (20)

Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...
Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...
Organizational Culture (12 examples of company culture done right in Thai Lan...
 
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...
Guide to Working Together ( Benefits and 9 Ways To Promote It in Thai Languag...
 
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...
Growth Mindset (How to help your team develop a growth mindset in Thai Langua...
 
Building Organizational Resilience in Thai Language
Building Organizational Resilience in Thai LanguageBuilding Organizational Resilience in Thai Language
Building Organizational Resilience in Thai Language
 
What is ChatGPT.pdf
What is ChatGPT.pdfWhat is ChatGPT.pdf
What is ChatGPT.pdf
 
Award Criteria for 2024.pdf
Award Criteria for 2024.pdfAward Criteria for 2024.pdf
Award Criteria for 2024.pdf
 
Happy Hormones.pdf
Happy Hormones.pdfHappy Hormones.pdf
Happy Hormones.pdf
 
IKIGAI.pdf
IKIGAI.pdfIKIGAI.pdf
IKIGAI.pdf
 
Discipline Equals Freedom.pdf
Discipline Equals Freedom.pdfDiscipline Equals Freedom.pdf
Discipline Equals Freedom.pdf
 
The Value of Digital Transformation.pdf
The Value of Digital Transformation.pdfThe Value of Digital Transformation.pdf
The Value of Digital Transformation.pdf
 
OKRs Measure What Matters.pdf
OKRs Measure What Matters.pdfOKRs Measure What Matters.pdf
OKRs Measure What Matters.pdf
 
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf
38 เวลามพราหมณ์ มจร.pdf
 
37 วิสัยหชาดก มจร.pdf
37 วิสัยหชาดก มจร.pdf37 วิสัยหชาดก มจร.pdf
37 วิสัยหชาดก มจร.pdf
 
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf
36 มหาโลมหังสจริยา มจร.pdf
 
35 เอกราชจริยา มจร.pdf
35 เอกราชจริยา มจร.pdf35 เอกราชจริยา มจร.pdf
35 เอกราชจริยา มจร.pdf
 
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf
34 สุวัณณสามจริยา มจร.pdf
 
33 สุตโสมจริยา มจร.pdf
33 สุตโสมจริยา มจร.pdf33 สุตโสมจริยา มจร.pdf
33 สุตโสมจริยา มจร.pdf
 
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
32 กัณหทีปายนจริยา มจร.pdf
 
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf
30 วัฏฏกโปตกจริยา มจร.pdf
 
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf
29 สัจจสวหยปัณฑิตจริยา มจร.pdf
 

Managing oneself

  • 1. พันเอก มารวย ส่งทานินทร์ maruays@hotmail.com 12 กุมภาพันธ์ 2558
  • 2. Peter F. Drucker PUBLICATION DATE: January 01, 2005 Best of HBR 1999.
  • 3.  Peter F. Drucker เป็นศาสตราจารย์ (กิตติคุณ) Marie Rankin Clarke ด้าน Social Science and Management ที่ Claremont Graduate University แคลิฟอร์เนีย  เขาเป็นชาวอเมริกันที่เป็นชาวออสเตรียโดยกาเนิด เขาเป็ นที่ ปรึกษาด้านการจัดการ การศึกษา และนักประพันธ์ เขามีส่วน ร่วมในการเขียนปรัชญารากฐาน และแนวทางการปฏิบัติของ องค์กรธุรกิจที่ทันสมัย  เขายังเป็นผู้นาในการพัฒนาการศึกษาด้านการจัดการ เขาคิดค้น แนวคิดเรียกว่า การจัดการโดยวัตถุประสงค์ (management by objectives) และเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ผู้ก่อตั้งการบริหาร จัดการยุคใหม่ (the founder of modern management)
  • 4.  Throughout history, people had little need to manage their careers--they were born into their stations in life or, in the recent past, relied on their companies to chart their career paths.  But times have drastically changed. Today we must all learn to manage ourselves. What does that mean? As Peter Drucker tells us in this seminal article first published in 1999, it means we have to learn to develop ourselves. It may seem obvious that people achieve results by doing what they are good at and by working in ways that fit their abilities. But, Drucker says, very few people actually know--let alone take advantage of--their fundamental strengths.  He challenges each of us to ask ourselves: What are my strengths? How do I perform? What are my values? Where do I belong? What should my contribution be? Don't try to change yourself, Drucker cautions. Instead, concentrate on improving the skills you have and accepting assignments that are tailored to your individual way of working. If you do that, you can transform yourself from an ordinary worker into an outstanding performer.  Today's successful careers are not planned out in advance. They develop when people are prepared for opportunities because they have asked themselves those questions and rigorously assessed their unique characteristics.
  • 5. ประเด็นในเรื่อง การพัฒนาตนเอง  1. อะไรคือจุดแข็งของฉัน? (What are my strengths?)  2. ฉันทาได้ดีเพียงใด? (How do I perform?)  3. ค่านิยมของฉันคืออะไร? (What are my values?)  4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี? (Where do I belong?)  5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร? (What should I contribute?)  ความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ (Responsibility of relationships)  ช่วงครึ่งหลังของชีวิต (The Second Half Of Your Life)
  • 6. เกริ่นนา  การประสบความสาเร็จในเศรษฐกิจฐานความรู้ คือผู้ที่รู้จุดแข็ง ของตัวเอง มีค่านิยม และมีวิธีการที่ดีที่สุดที่พวกเขาใช้ ดาเนินการ (Success in the knowledge economy comes to those who know themselves-their strengths, their values, and how they best perform)  ประวัติของผู้ที่ประสบความสาเร็จในอดีต คือผู้ที่มีการบริหาร จัดการตนเองอยู่เสมอ
  • 7. กล่าวโดยทั่วไป  เราจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับตัวเอง  เราจะต้องมีการพัฒนาตัวเอง  เราจะต้องวางตัวเอง ในที่ที่เราสามารถมีผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  เราจะต้องระลึกไว้เสมอว่า ในช่วง 50 ปีของชีวิตการทางาน เมื่อ ถึงจุด ๆ หนึ่ง ต้องรู้จักวิธีการและเวลาที่จะเปลี่ยนงานที่ทา
  • 8. 1. อะไรคือจุดแข็งของฉัน?  รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณทาได้ดี มันเป็นการง่ายที่จะรู้ในสิ่งที่เราทาได้ ไม่ดี มากกว่าการรู้ว่าสิ่งที่เราทาได้ดี  เราไม่สามารถสร้างประสิทธิภาพการทางานได้บนจุดอ่อน ซึ่งอาจ ทาให้เราไม่สามารถทาอะไรได้เลย  บุคคลสามารถดาเนินการได้ โดยอาศัยจุดแข็งเท่านั้น  ให้ค้นพบจุดแข็งของคุณผ่าน การวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ (feedback analysis)
  • 9. การวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ  เป็นวิธีเดียวที่ใช้ระบุจุดแข็งของคุณ  เขียนผลที่คาดหวังจากการตัดสินใจที่สาคัญและการกระทาของคุณ จากนั้น 9-12 เดือนต่อมา ให้เปรียบเทียบกับผลลัพธ์  แผนดาเนินการ:  ใส่จุดแข็งของคุณที่ทาให้เกิดผลลัพธ์  ทางานเพื่อปรับปรุงจุดแข็งของคุณ  หลีกเลี่ยงความหยิ่งทางปัญญา - หาทักษะที่จาเป็น  แก้ไขนิสัยที่ไม่ดี; การขาดมารยาท  รู้ในสิ่งที่จะไม่ทา – ระบุความไร้ความสามารถ และพยายามหลีกเลี่ยง
  • 11. กลยุทธ์ 1. เน้นจุดแข็งของคุณ (ให้ใช้จุดแข็งที่สามารถผลิตผลลัพธ์) 2. ปรับปรุงจุดแข็งของคุณ (พัฒนาทักษะของคุณหรือหามาใหม่) 3. ค้นพบความเย่อหยิ่งทางปัญญาของคุณที่เป็นสาเหตุของความ ล้มเหลว แล้วเอาชนะมันให้ได้ (แก้ไขนิสัยที่ไม่ดีของคุณ)
  • 12. 2. ฉันทาได้ดีเพียงใด?  ขึ้นกับลักษณะของบุคลิกภาพ – วิธีการดาเนินการที่บุคคลที่ทา ได้ดีหรือไม่ดี เพราะแต่ละคนมีการทางานและการดาเนินการที่ แตกต่างกัน  วิธีการที่คนดาเนินการที่ไม่ซ้ากัน: เรื่องของบุคลิกภาพ  คนจานวนมากทางานในรูปแบบที่ไม่ได้เป็นวิธีการของพวกเขา  อย่าพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง (มากเกินไป) – ให้ทางาน หนักเพื่อปรับปรุงวิธีที่คุณใช้ดาเนินการ
  • 13. เราเป็นผู้อ่านหรือผู้ฟัง?  ผู้อ่านเช่น ประธานาธิบดีเคนเนดี้ หรือรัฐมนตรีแมคนามารา ที่ ชอบอ่านรายงาน ในการแถลงข่าวหรือการอภิปราย  ผู้ฟังเช่น ประธานาธิบดีรูสเวลท์ ชอบการฟังและพูดคุย มากกว่า การอ่านและการเขียน  ผู้อ่านไม่สามารถกลายเป็นผู้ฟังได้อย่างเต็มที่ – และในทานอง เดียวกัน
  • 14. เราเรียนรู้ได้อย่างไร?  คนเราอาจจะได้เรียนรู้จากการอ่าน การเขียน การทา การพูด การฟัง หรือการรวมกันของวิธีดังกล่าว  เราจะต้องใช้วิธีการที่ได้ผล สาหรับเราเอง
  • 15. 3. ค่านิยมของฉันคืออะไร?  การทดสอบกับกระจก (mirror test) : อย่างมีจริยธรรมถาม ตัวเองว่า คนแบบไหนที่ฉันต้องการที่จะเห็นในกระจกในตอน เช้า?  ค่านิยม (values) เป็นการทดสอบที่ดีที่สุด (ultimate test) สาหรับการทางานที่เข้ากันได้ขององค์กรกับคุณ
  • 16. 3. ค่านิยมของฉันคืออะไร? (ต่อ)  ความขัดแย้งค่านิยมที่ควรหลีกเลี่ยงคือ  ความมุ่งมั่นขององค์กร ระหว่างพนักงานใหม่กับพนักงานเก่า  การปรับปรุงที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้ น หรือพัฒนาอย่างก้าวกระโดด  การเน้นผลในระยะสั้น เทียบกับเป้าหมายระยะยาว  คุณภาพเทียบกับปริมาณ  การเจริญเติบโตเมื่อเทียบกับความอยู่รอด
  • 17. 4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี?  นักคณิตศาสตร์ นักดนตรี และพ่อครัว มักจะแสดงออกในขณะที่พวก เขามีอายุสี่หรือห้าปี  คนที่มีพรสวรรค์สูง ควรจะต้องตระหนักในช่วงต้นของชีวิตว่า พวก เขาควรเป็นหรือไม่ควรเป็นอะไร  การประสบความสาเร็จในอาชีพไม่ได้เกิดจากวางแผน  ผู้ประสบความสาเร็จในอาชีพ เกิดจากมีการพัฒนาเตรียมไว้ก่อนสาหรับ โอกาสที่จะมาถึง เพราะพวกเขารู้จุดแข็งของพวกเขา วิธีการของพวกเขาใน การทางาน และค่านิยมของพวกเขา  การรู้ตัวตนสามารถเปลี่ยนคนธรรมดา - ขยันและมีความสามารถ แต่อย่าง อื่นปานกลาง – ให้เป็นผู้ที่มีความโดดเด่น
  • 18. 4. ฉันควรจะเป็นและอยู่ที่ไหนดี? (ต่อ)  ฉันควรเป็นหรือฉันไม่ควรเป็น ...  ฉันควรทางานในองค์กรขนาดใหญ่หรือองค์กรขนาดเล็ก?  "ใช่ฉันจะทาอย่างนั้น " (ในวิถีที่ฉันเป็น)  ถ้าฉันไม่ชอบการตัดสินใจ ฉันควรจะได้เรียนรู้ที่จะบอกว่าไม่ เมื่อ มีการมอบหมายให้เป็นผู้ตัดสินใจ  เมื่อฉันตอบคาถามสามข้อก่อนหน้านี้ แล้ว ทาให้ฉันสามารถและ ตัดสินใจในสิ่งที่ฉันเป็น
  • 19. 5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร?  ผู้ปฏิบัติงานที่มีความรู้ ควรแสวงหาการมีส่วนสนับสนุนที่ เกี่ยวข้องกับ:  สถานการณ์ต้องการอะไร?  การมีจุดแข็ง วิธีการ และค่านิยมของฉัน สามารถสนับสนุนใน สิ่งที่ต้องทาอะไรบ้าง?  อะไรคือผลลัพธ์ที่ได้ที่สร้างความแตกต่าง จากการประสบ ความสาเร็จ?
  • 20. 5. สิ่งที่ฉันควรจะมีส่วนสนับสนุนคืออะไร? (ต่อ)  ไม่ควรมองไกลไปข้างหน้าเกิน 18 เดือน ควรมีการวางแผนที่จะ -  ให้บรรลุผลลัพธ์ที่มีความหมายและสร้างความแตกต่าง  ยืดเป้าหมายที่มีความลาบากแต่สามารถทาให้สาเร็จได้  สามารถมองเห็นผลได้และสามารถวัดผลได้  กาหนดแนวทางของการกระทาว่า: จะทาอย่างไร ที่ใด วิธีการที่จะ เริ่มต้น สิ่งที่เป็นเป้าหมาย วัตถุประสงค์ และกาหนดเวลาเส้นตาย
  • 21. ความรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์  เจ้านายจะไม่ได้ขึ้นกับตาแหน่งในแผนภูมิหรือหน้าที่ - การปรับปรุง แล้วทาให้เจ้านายมีประสิทธิผล (effective) มากขึ้น เป็นความลับของ "การจัดการเจ้านาย"  ความสัมพันธ์ของการทางานขึ้นอยู่กับคนในการทางาน - เพื่อน ร่วมงานมีความเป็นมนุษย์และความเป็นบุคคลเช่นเดียวกับที่คุณมี  ความรับผิดชอบของการสื่อสาร เป็นวิธีการที่คุณดาเนินการ เพื่อลด ความขัดแย้งด้านบุคลิกภาพ  องค์กรเกิดจากการสร้างความไว้วางใจระหว่างบุคคล - ไม่จาเป็ นต้อง หมายความว่าพวกเขาชอบกัน - แต่อยู่ที่พวกเขามีความเข้าใจกัน และกัน
  • 23. ช่วงครึ่งหลังของชีวิตของคุณ  การจัดการตนเอง นาไปสู่การเริ่มต้นอาชีพที่สอง:  เริ่มต้นหนึ่งใหม่ (ย้ายไปยังองค์กรอื่น)  พัฒนาอาชีพคู่ขนาน (ทาไปพร้อมกับงานปัจจุบัน)  ผู้ประกอบการทางสังคม (กิจกรรมไม่แสวงหาผลกาไร)  ผู้ที่จัดการช่วงครึ่งหลังชีวิตของพวกเขา อาจจะเป็นชนกลุ่มน้อย  ส่วนใหญ่มักจะอยู่จน เกษียณอายุ (retire on the job)
  • 24. สรุป  ในยุคอุตสาหกรรมความรู้  การประสบความสาเร็จส่วนใหญ่ คือไม่ล้มเหลว  แรงงานที่มีความรู้ ยั่งยืนกว่าองค์กร  แรงงานที่มีความรู้ มักเคลื่อนที่ และไม่อดทน  จาเป็นที่จะต้องจัดการตนเอง เป็นการปฏิวัติกิจกรรมของมนุษย์  การจัดการตนเอง ต้องมีสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประวัติการณ์ของบุคคล – ไปยังจุดที่คนงานที่มีความรู้แต่ละคน คิดและมีพฤติกรรม เช่นเดียวกับซีอีโอ (thinks and behaves like a CEO)
  • 25. •What are my strengths? •How do I perform? •What are my values? •Where do I belong? •What should I contribute?
  • 26.  " Success in the knowledge economy comes to those who know themselves- their strengths, their values, and how they best perform."  "Successful careers are not planned. They develop when people are prepared for opportunities because they know their strengths, their method of work, and their values."  "Taking responsibility for relationships is therefore an absolute necessity. It is a duty."
  • 27. (1) use "feedback analysis" to discover and focus on your strengths. (2) determine how I best perform, as a reader or as a listener, determine how I learn, and determine if I work well under stress or want highly structured, predictable environments. (3) know what my values are, and align my organization with them. (4) build relationships, and communicate clearly, effectively, constantly within them, and (5) after 20 years, most high-performing people will seek out or start a 2nd career, and planning for it or developing it while in the 1st one is most successful.